Friday, June 5, 2009

Kassetฟันกำไรบอนด์ตลาดเกิดใหม่ ปันผลK-GEMBONDรวมเกือบ70ล.


นายรพี สุจริตกุล
บลจ.กสิกรไทยเตรียมปันผลกอง"โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต บอนด์"เกือบ 70 ล้านบาท นักทุนรอรับพร้อมกัน 0.77 บาทต่อหน่วย 26 มิถุนายนนี้



Kassetฟันกำไรบอนด์ตลาดเกิดใหม่ ปันผลK-GEMBONDรวมเกือบ70ล.


ถือเป็นกองทุนที่เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องผลตอบแทนจากตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศ ซึ่งกระจายความเสี่ยงถึง 4 ภูมิภาคทั่วโลก

นาย รพี สุจริตกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนของบริษัทได้มีมติให้จ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต บอนด์ (K Global Emerging Market Bond Fund : K-GEMBOND)

สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วัน ที่ 1 ธันวาคม 2551 ถึง 31 พฤษภาคม 2552 ในอัตราหน่วยละ 0.77 บาท มูลค่ากว่า 68.69 ล้านบาท ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2552 เวลา 08.00 น. โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลกองทุนดังกล่าว ในวันที่ 26 มิถุนายน 2552 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อ 2 พ.ย. 2550 มีการจ่ายปันผลไปแล้วรวม 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจ่ายไปแล้วเมื่อเดือน มิ.ย. 2551 เป็นเงิน 0.13 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวจะ เน้นลงทุนในพันธบัตรหรือตราสารหนี้ภาครัฐของกลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่ ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับสูงจากทั่วทุกมุมโลก ผ่านกองทุน DB Platinum EMLINTM Sovereign Bond Fund สำหรับดัชนีที่ใช้ในการวัดผลของกองทุน เป็นดัชนีที่มุ่งสะท้อนผลการดำเนินงานของตราสารหนี้ภาครัฐและกึ่งรัฐของตลาด เกิดใหม่ในสกุลเงินท้องถิ่นจาก 4 ภูมิภาค ได้แก่ ยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลางและแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา ทำให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนเฉพาะตลาดที่พัฒนาเต็ม ที่แล้วและถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในกรณีที่เกิดความผันผวนอย่างรุนแรงใน ภูมิภาคนั้นๆ

"กองทุนเปิดเค โกลบอล อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต บอนด์ ยังคงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่ คาดหวังโอกาสรับผลตอบแทนจากตราสารหนี้ภาครัฐต่างประเทศที่มีคุณภาพสูงผ่าน กองทุนรวมที่กระจายความเสี่ยงของการลงทุนไปยังตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก"นายรพีกล่าว

อนึ่ง บลจ.กสิกรไทย จำกัด ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทกิจการลงทุนจากกระทรวงการ คลัง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2535 ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่ม KASIKORNBANKGROUP ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2552 บริษัทฯ มีทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ เท่ากับ 452,945.68 ล้านบาท (ข้อมูล : สมาคมบริษัทจัดการลงทุน)

นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทยยังอยู่ในระหว่างทำการเปิดขาย กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 18 เดือน เอ (KFF18MA)ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ชั้นนำของประเทศออสเตรเลียจน ถึงวันที่ 8 มิถุนายนนี้ โดยกองทุนนี้จะมีระยะเวลาลงทุนประมาณ 15 เดือน และมูลค่าโครงการ 3,500 ล้าบาท

ทั้งนี้ จุดเด่นของกองทุนนี้คือจะเน้นเรื่องของการคัดตราสารที่จะเข้าไปลงทุน โดยพอร์ตการลงทุนจากการหารือในเบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนส่วนใหญ่ในตราสารหนี้ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ยในระดับ AA และจะทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน

นอก จากจุดเด่นเรื่องคุณภาพตราสารแล้ว กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 18 เดือน เอ ยังมีนโยบายจ่ายคืนเงินต้น 37% พร้อมผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนในเดือนที่ 9 และจ่ายเงินต้นส่วนที่เหลือพร้อมผลตอบแทนเมื่อกองทุนครบอายุ ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุน เนื่องจากไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนซึ่งมีระยะเวลาเกินกว่า 1 ปีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถนำเงินต้นที่จ่ายคืนไปเลือกลงทุนในกองทุนอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มเติมได้อีกโดยไม่ต้องรอจนถึงวันที่กองทุน ครบอายุ





แหล่ง : มติชน (www.matichon.co.th)

No comments:

Post a Comment